การเก็บเกษรและการติดฝักรองเท้านารี

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่ผู้รู้อะไรเป็นแต่เพียงพอจะติดฝักรองเท้านารีเป็นบ้างเล็กน้อย ก็เอามาเล่าสู่กันฟังเผื่อมือใหม่ๆเข้ามาจะลองทำเล่นๆกันก็คงจะพอมองเห็นภาพโดยรวม ส่วนเทคนิคต่างๆในรายละเอียด เช่น ฤกษ์ยามในการติดฝัก การแบ่งเกษรใช้ไว้อีกหลายๆต้น ฯลฯ พวกนี้ พอทำๆไปก็จะเป็นกันเองหละครับ ^^

มาดูอุปกรณ์กันก่อนนะครับ

1.ไม้จิ้มฟัน อันที่ยังไม้ใช้ที
2.ดินสอ 2 บี อิอิ ห้ามใช้ปากกา เพราะปากกาเมื่อโดนน้ำจะจางหายเร็วกว่าดินสอ เราถือฝักกัน 6 เดือนขึ้น ใช้ปากกาจะจางหายจนอ่านไม่ออก
3.ปากกาลูกลื่นเอาไว้เขียนซองยาและเขียนในสมุดบันทึก (ลืมถ่ายภาพมาอิอิ)
4.ไฟแช็ค
5.หลอกกาแฟแบบใส ยังไม่ใช้ทีนะ อิอิ
6.ซองยาที่สามารถเขียนได้ด้วยปากกา
7.สมุดบันทึก(ลืมถ่ายรูปมา)
8.กล่องใสๆตามรูปหละเอาไว้ใส่ของเล็กๆน้อยๆ และเอาฝามันมาใช้ประโยชน์เดี๋ยวเรามาดูกันว่าเอาไปทำอะไร

และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ กล้วยไม้และเกษรที่เราจะเอามาติดฝักอันนี้สำคัญที่สุด เรามาเริ่มจากการหักกระเป๋ามันเลยนะครับ เซียนบางคนไม่หักกระเป๋าใช้เบี่ยงกระเป๋าเอาแต่ผมไม่ทำงั้นหละเอาชัวร์ๆดีกว่า มือซ้ายจับอย่างที่เห็นใช้นิ้วคีบฝักไว้หน่อย มือขวาจับกระเป๋าและกดลง แป๊ะ!

กระเป๋าหายไปแล้ว เหลือแต่ดอกหละ

ส่วนกระเป๋ามานเราเอามาใช้ประโยชน์อย่างอื่นละกัน

นอกเรื่องแล้วตรู

เรามาดูซิ เกษรตัวผู้มานอยู่หน่าย

ทีนี้เพื่อป้องกันการหล่นหายของเกษรเราเอามือรองอย่างงี้

แล้วก็เอาไม้จิ้มฟันแคะมานออกมา

เราก็เอามาวางบนฝาครอบกล่องพลาสติก และเราจะเห็นส่วนที่เป็นสีขาวๆแข็งๆและส่วนที่เป็นสีเหลืองๆหนืดๆ เราใช้ไม้จิ้มฟันแคะเอาแต่ส่วนที่เป็นสีเหลือง สีขาวๆตรงนั้นผมเรียกว่าหมวกครอบเกษร บางท่านก็เก็บมันทั้งงี้หละ บางท่านก็แคะออก ว่ากันว่าถ้าเก็บทั้งหมวกจะทำให้ขึ้นราและเสียหายได้อายุการเก็บรักษาน้อย แต่สำหรับผมถ้ารู้อยู่ว่าจะใช้ไม่นานก็เก็บมันทั้งหมวกหละขี้เกียจแคะ มีเหลืองกระบี่บางต้นผมเก็บเกษรทั้งหมวกมาตั้งแต่ปี 49 เอามาใช้ก็ยังใช้ได้ แต่เอาะเถอะ แคะๆมานออกซะหน่อย ตามตำราเดี๋ยวเค้าว่าเอา อิอิ

จิงๆเกษรต้นนี้ใช้ไม่ได้แล้วนะครับแห้งแข็งไปหมดแล้ว เก็บไว้ก็ใช้ไม่ได้ ถ้าจะใช้ต้องใช้ตอนนี้ผสมน้ำใช้เลย

ทำทีเป็นว่าใช้ได้แล้วกันนะ เราก็เอามาใส่หลอดที่ปิดผนึกด้านท้ายไว้แล้ว

และเอาไฟแช็คลนปิดผนึกซะ

ปิดแระ

ก็เอาปากกาเขียนว่าเป็นกล้วยไม้อะไร ชื่อต้นอะไร เก็บเกษรวันไหน จิงๆให้ดีเกษร 1 เม็ดควรเก็บ 1 หลอดนะเวลาผ่าใช้จะได้ไม่ต้องมาปิดผนึกใหม่อีก

คราวนี้เมื่อเก็บเกษรต้นแม่เรียบร้อยแล้ว เราจะเริ่มติดฝักกันหละ

เรามาดูกันว่าแอ่งเกษรตัวเมียมันอยู่ตรงไหน จับทางจากโลห์ก่อนนะครับ มันจะมีโลห์อีกอันซ้อนอยู่หลังโลหห์อันหน้าที่เราเห็น ตรงนั้นหละแอ่งเกษรตัวเมีย

พลิกดอกดูกันเลยดีกว่าชัดๆ จะเห็นร่องที่เป็นรูปตัว Y ตรงนั้นหละครับที่เราจะเอาเกษรตัวผู้ลงจอด เอามันตรงกลางหละละเลงให้ทั่วร่องมัน

เราก็เอาเกษรตัวผู้ใส่ลงไปตรงร่องมัน ตามรูปจะเห็นว่ายังมีหมวกเกษรอยู่เลย 555555

อันนี้หละครับประโยชน์ของหมวกมัน ผมใช้ไม้จิ้มฟันกดลงไปตรงหมวกและบดขยี้เบาๆ แ่อ่งเกษรมันไม่ช้ำเหมือนไม้จิ้มฟันไปบดขยี้โดยตรง หลังจากนั้นผมก็เอาหมวกมันออก แต่โดยทั่วไปจะเอาเฉพาะเกษรเหลืองๆมาติดนะครับ อันนี้ก็ตามเทคนิคแต่ละคน

หลังจากนั้นก็เขียนป้าย พ่อแม่ และวันที่ผสมคล้องก้านดอกมันไว้ และอย่างลืมจดลงสมุดบันทึกนะครับ จบแล้วครับ

อันนี้แหละที่ผมพยายามหา ขอบคุณมากครับ

สุโค่ยๆๆๆๆ

แต่ว่ามือจานลิง มัยเหี่ยวจัง อิอิ

Anu พิมพ์ว่า:

แต่ว่ามือจานลิง มัยเหี่ยวจัง อิอิ

พี่อนูช่างสังเกตนะคับ
ิเปนร่องรอยประสบการณ์ ๕๕๕

อิอิ... ขอดูด้วยคนนะครับ...

เอ... แล้วตกลงเราเอากระเปาะประทำประโยชน์อย่างอื่นเนี่ยะ เอาไปทำอะไรล่ะครับ งุงิงุงิ......

ก็เสริมจมูกเหมือนนางแบบไง แต่ว่าหนวดเยอะจังนางแบบ